วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559

สอบปลายภาค

ข้อสอบปลายภาคให้นักศึกษาทำลงในบล็อกของนักศึกษาทุกข้อทุกข้อ มี 10 ข้อ

1. คำว่า จรรยาบรรณ จริยธรรม คุณธรรม ค่านิยม จารีตประเพณี กฎหมาย ให้นักศึกษาให้คำนิยาม และสรุปว่าคำเหล่านี้เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ  จรรยาบรรณ หมายถึง ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกําหนดขึ้น เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้

จริยธรรม หมายถึง สิ่งที่ควรประพฤติ มีที่มาจากบทบัญญัติหรือคำสั่งสอนของศาสนา หรือใครก็ได้ที่เป็นผู้มีจริยธรรม และได้รับความเคารพนับถือมาแล้ว

คุณธรรม หมายถึง ความดีงามที่ถูกปลูกฝังขึ้นในจิตใจ จนเกิดจิตสำนึกที่ดี มีความกตัญญู เป็นต้น

ค่านิยม  หมายถึง สิ่งที่สังคมถือว่ามีค่าพึงปราถนาต้องการให้เป็นเป้าหมายของสังคมและปลูกฝังให้สมาชิกของสังคมยึดถือเป็นเป้าหมายในการดำเนินชีวิตควรหลีกเลี่ยง เช่น ความยากจน สิ่งมีคุณค่า น่าปราถนา หรือนำความสุขมาให้มีทั้งเป็นวัตถุและไม่เป็นวัตถุ

จารีตประเพณี หมายถึง ระเบียบแบบแผนหรือแนวทางการประพฤติปฏิบัติที่สืบทอดกันมาช้านานและเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม 

กฎหมาย  หมายถึง กฎเกณฑ์ ข้อบังคับที่ใช้ควบคุมความประพฤติของมนุษย์ในสังคม กฎหมาย มีลักษณะเป็นคำสั่ง ข้อห้าม ที่มาจากผู้มีอำนาจสูงสุดในสังคมใช้บังคับได้ทั่วไป ใครฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษหรือสภาพบังคับอย่างใดอย่างหนึ่ง

จากคำต่างๆข้างต้น สิ่งที่เหมือนกัน ก็คือ เป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ การปฏิบัติ เพื่อเป็นการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม และเพื่อความสันติสุขของบ้านเมือง

2. ในสังคมทุกวันนี้ กฎหมาย เข้ามาเกี่ยวข้องและมีบทบาทต่อมนุษย์อย่างไร หากไม่มีจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีกฎหมายจริงหรือที่ว่าสามารถใช้บังคับได้ สังคมทุกวันนี้สงบตามที่นักกฎหมายได้บัญญัติขึ้น จงให้เหตุผลยกตัวอย่าง
ตอบ   กฏหมาย เข้ามามีบทบาทในการลงโทษ บุคคลที่กระทำความผิด หรือ กระทำในสิ่งที่สังคมเชื่อว่าสิ่งนั่้น มีความเลวร้าย จึงสมควรได้รับโทษ หากบ้านเมืองไม่มีกฎหมายบังคับใช้ บ้านเมืองก็คงมีแต่ความวุ่นวาย ผู้คนในสังคมก็จะกระทำการสิ่งใดตามใจตนเอง บ้านเมืองเกิดความขัดเเย้ง รบราฆ่าฟัน เพื่อความอยู่รอดของตนเอง 

3. พระราชบัญญัติการการศึกษา มีหลักในการจัดการศึกษาและแนวการจัดการศึกษาทำได้อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ  การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ  และต้องยึดหลักนักเรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอนเพราะอาจจะสร้างปัญหาเชิงกฎหมายในการบังคับใช้ และการตีความ นอกจากนั้นในปรัชญาการเรียนการสอนควรหลีกเลี่ยงแนวคิดแบบสุดโด่งที่แยกขั้วระหว่างการเรียนของนักเรียน
และการสอนของครู   การจัดการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องเน้นความสำคัญทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับการศึกษาในเรื่องต่อไปนี้

(1) ความรู้เรื่องเกี่ยวกับตนเอง และความสัมพันธ์ของตนเองกับสังคม ได้แก่ ครอบครัวชุมชน ชาติ และสังคมโลก รวมถึงความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสังคมไทยและระบบการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(2) ความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์เรื่องการจัดการ การบำรุงรักษาและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลยั่งยืน
(3) ความรู้เกี่ยวกับศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม การกีฬา ภูมิปัญญาไทยและการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา
(4) ความรู้ และทักษะด้านคณิตศาสตร์ และด้านภาษา เน้นการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง
(5) ความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข

4. ในฐานะที่นักศึกษาทุกคนทราบว่าประเทศไทยขณะนี้อยู่ในช่วงปฏิวัติ นักศึกษาคิดว่าประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจาก สาเหตุอย่างไร วิธีการที่คณะรัฐบาลทหารแก้ไขอยู่นี้น่าจะดีหรือไม่ดีจงให้เหตุผลและอธิบาย
ตอบ  ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น น่าจะมาจาก สาเหตุ ความขัดเเย้งทางด้านการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายต่อสังคมไทยมาก ซึ่งการที่รัฐบาล และทหารเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหานี้ ถือได้ว่าเป็นผลดีต่อประชาชน เข้ามาควบคุม ดูแล ให้ความช่วยเหลือ และช่วยทำให้ปัญหาทุกๆอย่าง คลี่คลายและสงบลงในที่สุด ในการออกมาแถลงการณ์ของรัฐบาลในแต่ละครั้ง เป็นข่าวสารที่ดีที่มีผลต่อคนไทยทั้งประเทศ ให้เฝ้าติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา และให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์บ้านเมืองอยู่ทุกขณะ

5.ความเคลื่อนไหวทางการศึกษากระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศมีการปฏิรูปขึ้น หากหน่วยงานทางการศึกษา เช่นเขตพื้นที่ประถมศึกษา เขตพื้นที่มัธยมศึกษา มีการยุบ และได้มีการนำสถานศึกษาขั้นพื้นฐานไปสู่จังหวัดในรูปแบบองค์คณะบุคคลเช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดขึ้นตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดท่านเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรจงอธิบาย
ตอบ   สำหรับผมไม่เห็นด้วย  เพราะว่า การยุบ เขตพื้นที่ประถมศึกษา เขตพื้นที่มัธยมศึกษา แล้วให้มีการนำสถานศึกษาขั้นพื้นฐานไปสู่จังหวัดในรูปแบบองค์คณะบุคคล มันเป็นระบบที่ค่อนข้างทำงานยาก เป็นการทำงานที่ต้องดูแลระบบใหญ่ จากที่มีการแบ่งภาระหน้าที่ให้แต่ละหน่วยงานดูแลก็ดีอยู่แล้ว เพราะการทำงานที่ใหญ่ขึ้น ความยุ่งยากในการบริหารก็ย่อมซับซ้อน ยุ่งยาก ดังนั้น การที่จะมีการปฏิรูปทางการศึกษาเกิดขึ้นนั้น ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นผลเสียต่อบุคคลหลายๆฝ่าย 

6.ในฐานะที่นักศึกษาจะลงไปฝึกสอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน วิชากฎหมายนี้นักศึกษาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรจงยกตัวอย่างที่นักศึกษาคิดว่านำไปปฏิบัติกับตัวนักศึกษาและนักเรียนได้ ยกตัวอย่างอธิบายพร้อมเหตุผลทำไมจึงทำเช่นนั้น
ตอบ   สำหรับผม คิดว่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้คือ ในการทำงานของสถานศึกษาจำเป็นต้องอาศัยกฎหมายในการทำงาน ทั้งในเรื่อง การดูแลเด็กนักเรียน การทำงานร่วมกับครู การวางตัวกับเด็ก ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษาซึ่งได้แก่
1. พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545
2. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
3. พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. 2551
4. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎกระทรวง
5. พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
6. ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณของวิชาชีพ และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
7. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547และที่แก้ไขเพิ่มเติม
8. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู: วินัยและการรักษาวินัย, คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยม, มาตรฐานวิชาชีพ, จรรยาบรรณวิชาชีพ, และสมรรถนะวิชาชีพ
9. กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์และวิธีการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่พึงทราบ เช่น
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการชักธงชาติในสถานศึกษา พ.ศ.2547
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเวลาทางานและวันหยุดราชกสนของสถานศึกษา พ.ศ.2547
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้กำกับการสอบ พ.ศ.2548
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ พ.ศ.2548
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการพานักเรียน และนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ.2548
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษาพ.ศ.2548
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548
- ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2549
10. ทฤษฎีและรูปแบบระบบการบริหารและการประกันคุณภาพการศึกษา การออกแบบและการวางแผน การบริหารและการประกันคุณภาพการศึกษา การนาแผนไปสู่การปฏิบัติ
11. ข่าวเกี่ยวกับกฎหมายและการประกันคุณภาพการศึกษา และบทสรุปการนาความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้

7. คำว่าการประกันคุณภาพมีความหมายอย่างไร มีหลักการประกันอย่างไร ถ้าหน่วยงานของต้นสังกัดลงมือทำเองเรียกว่าอะไรเข้ามีวิธีการทำอย่างไร หากนอกสังกัดเขาลงมือทำเขาเรียกว่าอะไร มีขั้นตอนการดำเนินงานอย่างไร (ให้ตอบเฉพาะของการศึกษาขั้นพื้นฐาน)
ตอบ  การประกันคุณภาพ หมายถึง การทำกิจกรรมหรือการปฏิบัติภารกิจหลักอย่างเป็นระบบตามแบบแผนที่กำหนดไว้ โดยมีการควบคุมคุณภาพ (Quality Control) การตรวจสอบคุณภาพ (Quality Auditing) และการประเมินคุณภาพ (Quality Assessment) จนทำให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพ และมาตรฐานของดัชนีชี้วัดระบบและกระบวนการผลิต ผลผลิตและผลลัพธ์ของการจัดการศึกษา
หลักการในการประกัน  มัดังนี้
- สร้างความมั่นใจและความพึงพอใจในคุณภาพการศึกษา
- การป้องกันปัญหา ต้องมีการวางแผนและการเตรียมการ
- ตั้งมั่นบนหลักวิชาในการพัฒนาหลักวิชาชีพ
- การดำเนินงานสามารถติดตามตรวจสอบและประเมินตนเองได้
- การดำเนินงานเน้นคุณภาพในการปฏิบัติงานทุกระดับทุกขั้นตอน
- การสร้างความรู้ ทักษะ และความมั่นใจให้กับบุคลากรในสถานศึกษา
- การประสานสัมพันธ์ในองค์กรและบุคลากรในพื้นที่
- การเน้นภาวะผู้นำของผู้บริหาร
***ถ้าหน่วยงานของต้นสังกัดลงมือทำเอง เรียกว่า การประกันคุณภาพภายใน (Internal Quality Assurance) มาตรา 48 กำหนดให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก
***ถ้าหน่วยงานของนอกสังกัดลงมือทำเอง เรียกว่า  การประกันคุณภาพภายนอก (External Quality Assurance) มาตรา 49 กำหนดให้มีสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา มีฐานะเป็นองค์กรมหาชน ทำหน้าที่พัฒนาเกณฑ์วิธีการประเมินคุณภาพภายนอก และทำการประเมินผลการจัดการศึกษา เพื่อให้มีการตรวจสอบคุณภาพของสถานศึกษา โดยคำนึงถึงความมุ่งหมายและหลักการ และแนวทางการจัดการศึกษาในแต่ละระดับตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษา ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่งอย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุกห้าปี นับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย และเสนอผลการประเมินต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน

8ในฐานะที่ท่านจะเป็นครูมืออาชีพท่านจะต้องนำวิชากฎหมายและการประกันคุณภาพมาประยุกต์ใช้ได้อย่างไร ตั้งแต่เรื่องการจัดการเรียนการสอน ชุมชน การดูแลนักเรียน ขอให้ตอบโดยนำหลักคิดมาประยุกต์ใช้
ตอบ    ในวิชาชีพครูในการจัดการเรียนการสอน สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ คือ นำกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก มาประยุกต์ใช้ โดยไม่ไปฝ่าฝืนเด็กตามที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ เช่น ลงโทษเด็กจนเกินเหตุ ชู้สาว เป็นต้น ชุมชน ก็นำกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครนักเรียนเข้าสถานศึกษา โดยไปประสานกับผู้ปกครองให้รับทราบถึงกฎ ข้อระเบียบ เกณฑ์ ในการเข้ารับการศึกษาต่างๆ โดยทำความเข้าใจให้กับผู้ปกครองการดูแลนักเรียน ก็นำกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับของเด็กนักเรียน โดยจะให้สิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ และเท่าเทียมกันทุกคน

9. วิชานี้ท่านคิดว่าเรียนไปแล้วมีประโยชน์หรือไม่ ถ้านักศึกษาไม่ได้เรียนก่อนฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูน่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างโปรดยกตัวอย่างประกอบการอธิบายและเมื่อได้เรียนแล้วจะได้ระมัดระวังอย่างไร
ตอบ   วิชากฎหมายและการประกันคุณภาพการศึกษา เป็นวิชาที่มีความสำคัญมากกับนักศึกษาวิชาชีพครู เพราะถ้าไม่ได้เรียน เราก็อาจจะไม่ให้ความสำคัญกับมันเลย และไม่ทราบถึงรายละเอียด ข้อห้าม หรือกฎบังคับ เกี่ยวกับ การศึกษา ซึ่งถ้าเราประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่เป็นข้อห้าม ก็อาจจะส่งผลเสียต่อตัวเราเอง ซึ่งหลังจากการได้รับการเรียนรู้ในรายวิชานี้ ทำให้นักศึกษาต้องยึดหลักในการปฏิบัติ เเละให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และนักศึกษามีความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดที่ค่อนข้างลึกซึ้งมาก ดังนั้นในการทำความเข้าใจในเนื้อหา ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก เเต่ก็เป็นประโยชน์ต่อผู้เป็นครูในอนาคต

10. การสอนแบบใช้เทคโนโลยีเวบบล็อกผสมผสานกับรายงานของนักศึกษา นักศึกษาคิดว่ามีประโยชน์หรือไม่อย่างไรจงแสดงความคิดเห็นตามแนวคิดของนักศึกษา.
ตอบ   สำหรับผมคิดว่า ประโยชน์ของการสอนแบบใช้เทคโนโลยีเวบบล็อกผสมผสาน เป็นการให้ผู้เรียนนั่นรู้จักการศึกษา ค้นค้วาด้วยตนเอง และรู้จักใช้สื่อเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์และก้าวทันสู่สังคมโลกยุคปัจจุบัน  ในการทำงานตามที่อาจารย์มอบหมาย โดยให้ส่งผ่านล็อกนี้ ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์งานอีกด้วย ในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนี้ ยังสอนให้ผู้เรียนเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง และมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น